วันอาทิตย์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2553

นวัตกรรมใหม่เครื่องใช้ในบ้าน จับมาพ่วงกันสั่งทำงานออนไลน์

คิดไม่ถึงว่า แค่เครื่องซักผ้าที่ใช้งานกันทุกวัน กว่าจะผลิต ออกมาได้ต้องผ่านการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ กันละเอียดยิบ เพื่อให้คุณแม่บ้านรู้สึกสบายมากที่สุดขณะรับผิดชอบงานภายในบ้าน

ภายในงาน IFA 2010 หรืองานแสดงสินค้าอิเล็กทรอนิกส์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ซึ่งจัดเป็นประจำทุกปีในเดือนกันยายน ณ กรุงเบอร์ลิน เยอรมนี ปีนี้ผู้ผลิตเครื่องใช้ในบ้านต่างนำเสนอแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับการรักษาสิ่งแวดล้อมไปควบคู่กับการพัฒนาเทคโนโลยี ทั้งโทรทัศน์ ตู้เย็น คอมพิว เตอร์ เครื่องเสียง อุปกรณ์ทำอาหาร เครื่องซักผ้าและเครื่องดูดฝุ่น

สำหรับนวัตกรรมเครื่องซักผ้าในปี 2553 หรือ 2010 ซึ่งเป็นจุดเด่นของงานนี้ เราจะเห็นเครื่องซักผ้าฉลาดมากขึ้น ซักสะอาดมากขึ้น ควบคู่ไปกับการทำหน้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ในฐานะแขกของซัมซุง ซึ่งเชิญไป ดูเทคโนโลยีเครื่องซักผ้าถึงเยอรมนี จึงได้เห็นการคิดค้นใหม่ ๆ เพราะแค่ซักให้สะอาดนั้นยังไม่พอ

เริ่มจากถังซักผ้า ซึ่งปกติแล้วถังซักจะมีพื้นผิวเป็นรูพรุนกลม ๆ ผิวด้านนอกจะคม ซึ่งหากเสื้อผ้าเข้าไปเกี่ยว จะเกิดเป็นรูเล็ก ทำให้เสื้อขาดได้ง่าย ทีมงานวิจัยและพัฒนาของซัมซุงได้ออกแบบใหม่ให้พื้นผิวของถังซักเป็นลายเพชร ด้วยเหตุผลผ้าจะได้ไม่ต้องสัมผัสกับผิวสัมผัสของ ถังซักทั้งหมด ก็จะช่วยถนอมเนื้อผ้าให้มีอายุใช้งานนานขึ้น และผิวนอกก็ทำให้เรียบเพื่อแก้ปัญหาผ้าขาดเป็นรู

อีกปัญหาหนึ่งที่ได้มาจากการทำวิจัยสัมภาษณ์คุณแม่บ้านชาวไทย ซึ่งกว่า 65% ระบุว่า มีปัญหาเรื่องผงซักฟอกตกค้างในตัวเครื่องและติดตามเสื้อผ้าเป็นคราบขาว นักวิจัยจึงได้ทำการทดลองพบว่า วิธีการใส่ผงซักฟอกไปพร้อมกันทำให้เครื่องตีฟองไม่แตก จึงเกิดเป็นคราบขาว แต่หากนำผงซักฟอก น้ำและอากาศมารวมกัน ก่อนส่งเข้าถังซัก จะทำให้ฟองที่เกิดจากผงซักฟอกกลายเป็นฟองโฟม ซึ่งจะช่วยถนอมเนื้อผ้า ซึมเข้าไปทำความสะอาดได้เร็วและง่ายกว่าปกติถึง 40% และยังช่วยประหยัดไฟได้อีก 15% เพราะใช้ไฟในระหว่างซักแค่ 100 วัตต์ หากเป็นแบบเดิมจะกินไฟถึง 2,000 วัตต์ สาเหตุที่ประหยัดไฟก็เพราะไม่ต้องใช้น้ำร้อนและซักแค่รอบเดียวก็สะอาดแล้ว

ซัมซุงเรียกเทคโนโลยีนี้ว่า อีโค บับเบิล จะมีให้เห็นในเครื่องซักผ้ารุ่นใหม่ ๆ เท่านั้น

อีกเทคโนโลยีที่น่าสนใจและเหมาะกับการใช้ชีวิตคนเมืองที่อยู่คอนโดมิเนียม ก็คือ การออกแบบตู้เย็น ไมโครเวฟ และเครื่องล้างจานที่กลมกลืนเข้ากับลักษณะของห้องครัวขนาดเล็ก อุปกรณ์เหล่านี้กลายเป็นส่วนหนึ่งของผนังบ้าน แม้กระทั่งไมโครเวฟ ซึ่งทำหน้าที่เป็นเตาอบด้วย ก็ยังใส่เทคโนโลยีให้ทำความสะอาดตัวเองหลังการใช้งาน และยังสามารถอบอาหารที่แตกต่างกันได้ในเตาเดียว เช่น ถาดบนอบเนื้อ ถาดล่างนึ่งผักผลไม้ ...อะไรจะขนาดนั้น

ทั้งหมดนี้อยู่บนแนวคิดโฮมคอนเน็คทิวิตี้ หรือการเชื่อมต่อภายในบ้าน ลองนึกภาพดูว่า ภายในห้อง หรือภายในบ้านของเรา มีห้องนั่งเล่น ห้องครัว ห้องนอน ฯลฯ แล้วเราสามารถสั่งงานอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ไวไฟ และบลูทูธ ผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ ให้สิ่งของเหล่านี้คุยกันและ ทำงานให้เรา เช่น สั่งให้เปิดแอร์ก่อนเข้าบ้าน ระหว่างไม่อยู่บ้าน เครื่องดูดฝุ่นก็ทำงานให้อัตโนมัติ ตู้เย็นก็จะรายงานผ่านทางระบบ ออนไลน์ว่า ในวันนี้มีอาหารประเภทไหนอยู่ในตู้เย็น และวัตถุดิบที่มีอยู่นั้นสามารถทำกับข้าวอะไรได้บ้าง

แนวคิดเหล่านี้ไม่ใช่มีอยู่แค่ในหนังแนวไซไฟอีกต่อไป ภายในงาน IFA 2010 มีให้เห็นแล้ว หากโฮมคอนเน็ตทิวิตี้ ได้รับความนิยมในเมืองไทย ก็น่าอิจฉาสาวใช้อิมพอร์ตที่มีเวลาว่างส่วนตัวมากขึ้น ส่วนพวกแม่บ้านสารพัดประโยชน์อย่างผู้เขียน ขอใช้วิธีดั้งเดิมทำมานานกว่า 10 ปี บัญชาการด้วยนิ้วชี้ สั่ง... ทำงานเหมือนเดิม.

ปรารถนา ฉายประเสริฐ
prathana.chai@gmail.com

1 ความคิดเห็น:

  1. บทคามของพี่มีความรู้ดีมากโปรดแนะนำผมด้วยครับ
    มือใหม่หัดทำ http://nicck-gravity.blogspot.com/

    ตอบลบ