วันอังคารที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2552

ทดสอบการนำเสนอผ่าน googledocs

วันศุกร์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2552

หมิ่นประมาทออนไลน์ หลักฐานใดเชื่อถือได้






บทบาทของอินเตอร์เน็ตในปัจจุบันนั้นนอกจากจะเป็นแหล่งเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร, ตลาดนัดออนไลน์,ตลาดแรงงาน,สถานีวิทยุ/โทรทัศน์ ที่เข้าถึงได้ง่าย ประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายแล้วยังวิวัฒน์จนกลายเป็นสังคมเสมือนที่ผู้คนทุกเพศ ทุกวัย สามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนทัศนคติและข้อมูลที่มีอยู่ได้ ผ่านเครือข่ายสังคม "SocialNetworking" ถือเป็นจุดเปลี่ยนทางสังคม ซึ่งคนรุ่นใหม่น้อยคนนักที่ไม่เคยสื่อสารผ่านช่องทางนี้ โกลบอลเทคโนโลยี อินทิเกรเทด ให้ข้อมูลว่า การใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สามหรือการหมิ่นประมาท จึงไม่จำเป็นต้องเกิดบนเวทีปราศรัย, บทสัมภาษณ์ผ่านสื่อ ฯลฯ อีกต่อไป หากเกิดขึ้นง่ายดายบนปลายนิ้ว คำถามคือ หากเกิดคดีความขึ้น หลักฐานใดเชื่อถือได้ในชั้นศาล? หากนาย ก. โพสต์ว่าร้ายนาย ข. ลงบน Hi5 ของนาย ก.เอง มีคนเข้าอ่านมากมายจนรู้ถึงหูนาย ข. นาย ข.เข้ามาเห็นจึง save หน้าจอ และพิมพ์ข้อความเก็บไว้เป็นหลักฐาน พร้อมแจ้งความดำเนินคดีกับนาย ก. ข้อหาหมิ่นประมาท กระดาษแผ่นนั้นถือเป็นหลักฐานได้หรือไม่?เทคโนโลยีที่ก้าวล้ำสามารถสร้างและแต่งเติมข้อความหรือรูปภาพได้ด้วยคอมพิวเตอร์แล้วจะเชื่อได้อย่างไรว่านาย ข.มิได้สร้างหลักฐานเท็จขึ้นมาใส่ความนาย ก. อีกมุมหนึ่ง หากนาย ก. กระทำผิดจริง และได้ลบข้อความนั้นออกไปแล้ว ก็ย้อนสู่คำถามเดียวกัน ศาลจะประทับรับฟ้องด้วยหลักฐานกระดาษพิมพ์ข้อความหรือ? พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 กำหนดให้ผู้ให้บริการเว็บไซต์ต้องเก็บบันทึกข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ (Log File) เพื่อใช้เป็นหลักฐานหากเกิดคดีความออนไลน์ขึ้น แต่หากผู้ดูแลเว็บไซต์เป็นผู้กระทำความผิดเสียเอง เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าจะไม่เกิดการลบหรือแก้ไขข้อความเพื่อให้ตนพ้นผิด เหตุนี้เจ้าของเว็บไซต์ ทั้งเว็บไซต์ส่วนบุคคลและเว็บไซต์องค์กร/หน่วยงานต่างๆ โดยเฉพาะเว็บไซต์ที่ให้บริการเว็บบอร์ด เว็บล็อกจึงควรใช้โปรแกรมเก็บบันทึกข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของตน เพื่อให้ทราบว่ามีใครเข้ามาใช้บริการที่เพจไหน ทำอะไร เมื่อไร อย่างไร โดยจัดเก็บข้อมูลดังกล่าวไว้ไม่ต่ำกว่า 90 วัน สามารถสืบค้นย้อนหลังและยืนยันได้ว่าข้อความดังกล่าวจะไม่ถูกแก้ไขสอดคล้องกับ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์เพื่ออำนวยความสะดวกแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ ให้สามารถตรวจสอบหลักฐานย้อนหลังได้หากเกิดคดีความออนไลน์ ซึ่งคาดว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นตามสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป

ขอบคุณที่มาจาก มติชน

วิธีเพิ่ม IQ 6 วิธีอย่างง่าย






1. ช็อกโกแลตช่วยได้

ดื่มช็อกโกแลตร้อนๆ แล้วคุณอาจรู้สึกกระปรี้กระเปร่าราวกับได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง ลองเปลี่ยนจากกาแฟแก้วเดิมมาเป็นช็อกโกแลตหอมกรุ่น จะช่วยให้สมองมีพลังวังชาขบคิดปัญหาเครียสๆ แบบผู้ใหญ่ได้ดีทีเดียว นักวิจัยมหาวิทยาลัยนอตติงแฮมพบว่า สารฟลาโวนอยด์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระในช็อกโกแลตที่ช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงสมองใด้นานถึง 3 ชั่วโมง นพ.เอียน แมคโดนัลด์ หัวหน้าทีมวิจัย เปิดเผยว่าข้อดีของช็อกโกแลตคือ ช่วยฟื้นฟูการทำงานของสมองในช่วงที่การรับรู้ของคนเราจะแย่ลง เช่น ในขณะที่เหนื่อยล้าหรือนอนน้อย ยิ่งถ้าเป็นดาร์คช็อกโกแลตก็จะยิ่งมีฟลาโวนอยด์เข้มข้นขึ้น ลองซดช็อกโกแลตอุ่นๆ สักแก้วก่อนเข้าประชุม 10 โมงเช้ารับรองว่าสมองคุณจะแล่นปรู๊ดปร๊าดเลยเชียวล่ะ

2. ดนตรีกล่อมสมอง

"ชนใดไม่มีดนตรีกาล ในสันดาลเป็นคนชอบกลนัก" ก็ขนาดคนใช้สมองเยอะๆ อย่างอาจารย์มหาวิทยาลัยหรือนักศึกษาปริญญาเอกยังนิยมฟังเพลงกันเลย ปัญญาชนเหล่านี้บอกว่าฟังเพลงคลาสสิกของบีโทเฟนแล้วทำให้สมองผ่อนคลายได้ ทว่าผลการศึกษาครั้งใหม่กลับพบว่า ไม่ว่าจะเป็นเพลงคลาสสิกอย่างโมสาร์ตหรือเฮฟวีเมทัลกระแทกหูอย่างวงสอเตอร์เฮดก็เพิ่มพลังให้สมองได้ทั้งนั้น สถาบัน วอทยาศาสตร์แห่งนิวยอร์กหรือ NYAS (New York Academy of Sciences) พบว่า การฟังดนตรีสุดโปรดไม่ว่าจะเป็นแนวไหนก็ตาม ล้วนส่งผลเชิงบวกต่อการรับรู้ ขณะที่วารสาร Nature รายงานว่า ถ้าให้ผู้เข้าทดสอบฟังเพลง 10 นาทีก่อนทำแบบทดสอบ พวกเขาจะทำคะแนนได้ดีขึ้น เห็นได้ชัดว่าดนครีมีส่วนอย่างมากต่อการเพิ่มระดับไอคิว ทีนี้คุณก็มีข้ออ้างในการควักกระเป๋าลงทุนกับเครื่องเสียงแจ่มๆ ที่ไพเราะเสนาะหูแล้วสิ
3. นั่งให้ปลอดโปร่ง
คุณเคยเป็นแบบนี้บ้างไหม ยิ่งนั่งจมปลักอยู่บนเก้าอี้ทำงานนานๆ สมองยิ่งตีบตันคิดอะไรไม่ค่อยออกเคล็ดลับหนึ่งที่ช่วยให้สมองโปร่งโล่งสบายคือการนั่งเก้าอี้แสนสบาย ผลการศึกษาครั้งใหม่ระบุว่า เก้าอี้นั่งที่ไม่ค่อยสบายอาจทำให้ความคิดของคุณโดนปิดกั้นไปด้วย ผลการศึกษาที่มหาวิทยาลัยลันด์ในสวีเดนระบุว่า คนส่วนใหญ่ต้องเจอปัญหาเลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอซึ่งเป็นผลจากการนั่งผิดท่า การบีบอัดกระดูกสันหลังด้วยการนั่งหลังค่อมขณะใช้แป่นคีย์บอร์ดจะทำให้เส้นเลือดที่ไปเลี้ยงสมองหดตัว ผลคือสมองคุณจะขาดออกซิเจน ดังนั้นการเลือกเก้าอี้ทำงานดีๆ สักตัวที่ช่วยให้คุณนั่งยืดหลังตรงได้ขณะทำงาน จึงสำคัญพอๆ กับงานบนหน้าจอของคุณเลยก็ว่าได้

4. พลังจากเนื้อ

ไม่ว่าคุณจะเป็นมนุษย์ถ้ำหรือมนุษย์ทำงานจอมแกร่งกองทับต้องเดินด้วยท้องอยู่วันยังค่ำ คุณย่อมไม่มีเรี่ยวแรงพอนัใส่เกียร์ห้าหนีเสือป่าที่จ้องจะขย้ำคอหรือเคาะตัวเลขในรายงานการขายให้สวยหรูได้แน่ถ้าท้องคุณร้องโครกครากดังเซ็งแซ่แบบนี้ การหม่ำเบอร์เกอร์ดีๆ เติมกระเพาะและพลังงานให้สมองย่อมช่วยได้ ซีโมน พาร์กินสัน นักโภชนาการ แนะนำว่า "เนื้อลูกแกะอุดมไปด้วยธาตุเหล็กและวิตามินบี 12 ซึ่งดีต่อการฟื้นฟูสมองที่อ่อนล้าให้กลับมากระปรี้กระเปร่า และถ้าได้แซมไข่แดงลงไปในเบอร์เกอร์ คุณจะได้โคลีนไปเสริมสร้างการรับรู้ของสมอง ส่วนผักต่างๆ จะช่วยป้องกัยการเกิดภาวะเครียสจากการที่ร่างกายมีสารอนุมูลอิสระมากเกินไป"

5. กินหนึ่งได้ถึงสอง

บางคนที่ไปยิมนอกจากจะเวิร์กเอาต์ให้ได้รูปร่างสมส่วน ยังอาจกินอาหารเสริมควบคู่กันไปเพื่อบำรุงกล้ามเนื้อ สำหรับใครที่เลือกอาหารเสริมเป็นครีเอทีนขอบอกว่าคุณตาแหลมมาก เพราะผลการศึดษาครั้งใหม่พบว่า ครีเอทีนไม่ใช่แค่ดีกับกล้ามเนื้อเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีบทบาทสำคัญต่อสมองของคุณ เพราะทั้งช่วยเสริมสร้างสมาธิและความสามารถในการประมวลผลข้อมูลและตัวเลขต่างๆ พญ.แคโรไลน์ เร จากมหาวิทยาลัยซิดนีย์ บอกว่า "อาหารเสริมชนิดนี้เพิ่มพลังให้สมองสามารถรับมือกับงานด้านการคำนวณ ตลอดจนกระบวนการคิดต่างๆ ให้ดีขึ้น" อาหารเสริมในรูปแคปซูลจะมีปริมาณครีเอทีนต่อหน่วยน้ำหนักมากกว่าแหล่งอื่นๆ ดังนั้นพกแคปซูลครีเอทีนติดตัวไปกินตอนเวิร์กเอาต์ช่วงเที่ยงก็เข้าท่าดี เพราะนอกจากจะทำให้สมองปราดเปรื่องแล้วยังทำให้กล้ามคมโตสมใจอีกต่างหาก

6. หลับฟื้นความจำ
นี่คงเป็นข่าวดีสำหรับคนชอบนอน เพราะการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอทำให้คุณฉลาดขึ้น ผลการศึกษาร่วมระหว่างคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย พบว่า การนอนหลับพักผ่อนช่วยกระตุ้นให้คุณดึงความทรงจะในเรื่องที่พึ่งเรียนรู้ไปไม่นานกลับคืนมาได้ แม้ว่าความทรงจำนั้นจะถูกแทนที่ด้วยข้อมูลใหม่ๆ ไปแล้วหลายชั่วโมงก็ตาม นพ.เจฟฟรีย์ เอลเลนโบเกน หัวหน้สทีมวิจัย บอกว่า "นี่แสดงให้เห็นว่า การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงช่วยปกป้องความจำแต่ยังมีบทบาทสำคัญในการเก็บรวบรวมความทรงจำเข้าด้วยกันอีกด้วยครับ" พูดง่ายๆ คือ ความทรงจำในสมองไม่แตกแถวนั่นเอง นักวิทยาศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดพบว่า หมอนก็มีผลต่อการนอนเช่นกัน เพราะหมอนที่รองรับสรีระร่างกายในขณะที่หลับได้ดี จะช่วยลดปัญหาการหายใจซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการหลับที่ต่อเนื่องยาวนาน ใครที่อยากนอนหลับสนิทและตื่นขึ้นมารับวันใหม่ด้วยความสดชื่นสมองแจ่มใส เห็นทีต้องลองใช้หมอนเมโมรีโฟม (Memory Foam) ซึ่งทำจากวัสดุเมโมรีโฟมที่ผ่านกระบวนย่อยเป็นปุยๆ ชิ้นเล็กๆ เสมือนเส้นใยไฟเบอร์ที่มีคุณสมบัติอ่อนนุ่มและแน่น

เรื่อง : David Morton
ขอบคุณที่มาที่นี่.คอม

5 วิธีง่ายๆ ...ออกกำลังกายในห้องทำงาน





วันนี้นำเอาวิธีออกกำลังกายในห้องทำงานมาบอก ถ้าเมื่อไรเกิดความรู้สึกเบื่อหน้าเจ้านาย เบื่อหน้าคนรอบข้าง เซ็ง..เซ็ง...มากมาย หรือว่าอยู่เฉยๆ แบบว่าว่างทั้งวัน ไม่มีอะไรทำ ไม่สนุก...มาลองวิธีนั่งสบาย แถมยังสนุกกับ 5 วิธีออกกำลังกายง่าย ๆ ดู นอกจากแก้เบื่อแล้วยังดีต่อสุขภาพอีกด้วยนะ

เริ่มต้น - เหยียดหลังตั้งตรง ย้ำว่าต้องตรงจริง ๆ การนั่งหลังตรงอาจฟังเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่เชื่อเถอะครับ ว่ามันคือจุดเริ่มต้นของการมีสุขภาพดี และจะทำให้คุณไม่ต้องเผชิญ กับโรคปวดหลังเมื่ออายุมาก

บริหารคอ - โดยเอียงไปทางซ้าย-ขวา หน้า-หลัง หยุดนิ่งในแต่ละจังหวะประมาณ 10 วินาที บริหารแขนและข้อมือ - ยื่นแขนหนึ่งข้างออกไป โดยใช้มืออีกข้างช่วยจับ และเหยียดให้สุดดังรูป ทำค้างประมาณ 10 วินาที ทำสลับกันไปทั้งสองข้าง

บริหารนิ้วมือ - ตั้งฝ่ามือขึ้น แล้วกำจากนั้นเหยียดนิ้วโป้งขึ้นแล้วยกอีก 4 นิ้วตามดังรูป แล้วเหยียดปล่อย ทำซ้ำประมาณ 5 ครั้ง สลับกันไปทั้งสองข้าง

บริหารช่วงอกและแขน - หามุมเหมาะในออฟฟิศทำงานของคุณ ยืนหันหน้าเข้าหากำแพง ห่างประมาณ 1 ฟุต ยกแขนขึ้นให้ข้อศอกอยู่ระดับเดียวกับหัวไหล่ จากนั้นทิ้งน้ำหนักไปที่กำแพงค้างไว้ประมาณ 10 วินาที
ง่ายๆ แต่ดี....ไม่เชื่อก็ลองดู